Tag: การวิจัย
-
Validity (ความถูกต้อง)ในงานวิจัย
ความถูกต้อง Validity ในงานวิจัย Validity ประเภทของความถูกต้อง หรือ การวัดต้องมีความถูกต้องเป็นคุณสมบัติที่สำคัญประการหนึ่งของ เครื่องมือวิจัยกล่าวคือ เป็นเครื่องมือที่สามารถวัดได้ตรงกับที่ต้องการจะวัด การตรวจสอบความตรงทำได้หลายวิธี ดังนี้ 1. ความถูกต้องเกี่ยวกับมาตรฐาน (Criterion–related validity) เป็นความถูกต้องที่สอดคล้องกับความคิด/มาตรฐาน ที่เราใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน เป็นการประเมินความตรงตามเกณฑ์ที่ได้มาตรฐานการตรวจสอบที่มุ่งหาความสัมพันธ์ระหว่างค่าที่วัดได้จากเครื่องมือที่สร้าง กับค่าที่วัดได้จากเกณฑ์ ความสำคัญอยู่ที่เกณฑ์ที่ผู้วิจัยเลือกว่าถูกต้องตามหลักทฤษฎี ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปหรือไม่ เกณฑ์ที่เลือกใช้มี 2 ลักษณะ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ต้องการให้เครื่องมือนั้นวัดได้ตรงตามเกณฑ์ กล่าวคือ 1.2.1) ตรงตามสภาพ (Concurrent Validity) หมายถึง ลักษณะที่เครื่องมือวัดได้มีความตรงตามสภาพความเป็นจริงโดยทั่ว ๆ ไปในเวลานั้น 1.2.2) ความตรงตามทำนาย (Predictive Validity) หมายถึง ลักษณะที่เครื่องมือวัดได้มีความตรงตามความจริงที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลัง หรือในอนาคต ซึ่งสามารถทำนายได้ 2. ความถูกต้องในเนื้อหา (Content validity) ความครอบคลุมของมาตรวัด/เครื่องมือในเรื่องที่เป็นเนื้อหาของสิ่งที่ต้องการวัด ความสามารถในการวัดกลุ่มเนื้อหาที่ต้องการจะวัดได้ครอบคลุมและเป็นตัวแทนของสิ่งที่ต้องการวัด เช่น วัดความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ หรือการวัดทักษะด้านต่าง ๆ เป็นการมองโดยส่วนรวมว่าเครื่องมือหรือชุดของคำถามหรือแบบวัดนั้น ครอบคลุมเนื้อหาที่จะวัดได้ถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ …
-
แบบแผนการสุ่มตัวอย่าง มีอะไรบ้าง
แบบแผนการสุ่มตัวอย่าง ในการสุ่มตัวอย่างจากประชากร อาจแบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ การสุ่มตัวอย่างชนิดที่ไม่ทราบโอกาส หรือความน่าจะเป็นที่แต่ละหน่วยถูกเลือกขึ้นมาเป็นตัวอย่าง (Non – probability sampling) ไม่สามารถวัดควาถูกต้อง หรือ ความเชื่อถือได้ของค่าประมาณจากตัวอย่างนั้น ๆ การสุ่มตัวอย่างชนิดที่ทราบโอกาส หรือความน่าจะเป็นที่แต่ละหน่วยถูกเลือกขึ้นมาเป็นตัวอย่าง (Probability sampling) สามารถกำหนดได้ว่า หน่วยแต่ละหน่วยของประชากรมีโอกาสเท่าใด ที่จะถูกเลือกขึ้นมาเป็นตัวอย่าง การสุ่มตัวอย่างชนิดที่ไม่ทราบโอกาส – ไม่สามารถวัดควาถูกต้อง หรือ ความเชื่อถือได้ของค่าประมาณจากตัวอย่างนั้น ๆ ใช้ได้ผลดีในกรณีที่ลักษณะของสิ่งที่ศึกษาพบได้น้อยในประชากร และในกรณีที่ไม่สามารถกำหนดกรอบของหน่วยศึกษาใน แบบแผนการสุ่มตัวอย่าง ได้ – การสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ (Accidental sampling) – การสุ่มตัวอย่างแบบโควต้า (Quota sampling) – การสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) – การสุ่มตัวอย่างแบบบอลล์หิมะ (Snowball sampling)…
-
การออกแบบวิจัย (Research Design)
การออกแบบวิจัย (Research Design) หมายถึงอะไร แบบวิจัย หมายถึง ขอบข่ายของโปรแกรมการวิจัยที่แสดงถึงแบบจำลองของการจัดกระทำตัวแปรในการวิจัย โดยเฉพาะการจัดเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ได้คำตอบบรรลุจุดมุ่งหมายของการวิจัยอย่างถูกต้องสมบูรณ์ การกำหนดแบบวิจัยหรือแบบจำลองการจัดกระทำตัวแปรในการวิจัยให้เหมาะสมกับปัญหาที่มุ่งวิจัย/มากกว่าการวางแผนการวิจัยที่เขียนออกมาในรูปโครงการวิจัย จุดมุ่งหมายของการออกแบบวิจัย 1. เพื่อให้ได้คำตอบในปัญหาที่ทำการวิจัยอย่างถูกต้อง แม่นตรง และประหยัด 2. ควบคุมความแปรปรวนของตัวแปรในการวิจัย Email: thesisonline99@gmail.comยินดีให้คำปรึกษาทุกท่านค่ะ คลิก : https://bit.ly/2WO7oAvFacebook : https://www.facebook.com/iamthesisWebsite: http://www.iamthesis.com/ช่องทางในการติดตามความรู้จากเรา#บทความ #แปล #ปรึกษาวิทยานิพนธ์#เครื่องมือวิจัย #เทคนิคสำหรับวิจัย #งานวิจัย#การวิจัย #วิจัย
-
หลักในการออกแบบวิจัย
หลักในการออกแบบวิจัย ประกอบไปด้วย หลักการควบคุมความแปรปรวนของตัวแปร (The “maxmincon” principle) Max : ทำให้ความแปรปรวนของ Dependent variable อันเนื่องจากตัวแปรทดลองหรือตัวแปรหลักมีค่าสูงสุด (Independent variable) Min : ทำให้ความแปรปรวนอันเนื่องจากความคลาดเคลื่อนมีค่าต่ำสุด Con : ควบคุมอิทธิพลของตัวแปรเกิน Maximization of experimental variance (MAX) เป็นความแปรปรวน/หรือความแตกต่างของค่าหรือคะแนนของตัวแปรตาม : อันเป็นผลมาจากความแตกต่างของตัวแปรอิสระ/ตัวแปรทดลอง/ตัวแปรหลัก ⇒ ผู้วิจัยต้องพยายามจัดให้ตัวแปรอิสระมีความแตกต่างกันมากที่สุดเพื่อจะได้ส่งผลไปสู่ตัวแปรตามซึ่งเป็นไปตามหลักในการออกแบบวิจัย Minimization of error variance (MIN) ขจัดความแปรปรวนที่เกิดจากการวัดและกลุ่มตัวอย่างที่แตกต่างกัน ⇒ ต้องสร้างเครื่องมือวัดให้มีความตรงและมีความเชื่อถือได้ (reliability) ⇒ ควบคุมสถานการณ์ทดลองให้เป็นระบบ ⇒ พิจารณาสถิติในการวิเคราะห์ให้เหมาะสมกับระดับการวัด Control of extraneous variable (CON) ควบคุมอิทธิพลของตัวแปรที่ไม้ได้ศึกษา ⇒ การสุ่ม/ป้องกันความแตกต่างอันเนื่องจากการเลือกตัวอย่าง (ตัวอย่างที่มาจากประชากรเดียวกัน จะมีคุณสมบัติเหมือนกัน) ⇒ นำมาเป็นตัวแปรอิสระด้วย…
-
วิธีการตรวจสอบสามเส้า (triangulation)
วิธีการตรวจสอบสามเส้า คืออะไร จากผู้วิจัยหรืออาจารย์สอนในระดับ ป.โท ป.เอก มักอ้าง วิธีการตรวจสอบสามเส้า (triangulation) คำว่า “การตรวจสอบสามเส้า” ตลอดเวลา หลัก 3 ประการของการตรวจสอบคุณภาพงานวิจัย และใช้เฉพาะการวิจัยเชิงคุณภาพ (qualitative research) ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี้ Triangulation หมายถึง การเปรียบเทียบข้อค้นพบ (Finding) ของปรากฏการณ์ที่ทำการศึกษา (Phenomenon) จากแหล่งและมุมมองที่แตกต่างกัน นักวิจัยจำนวนมากคาดหมายว่า Triangulation เป็นแนวทางการยืนยันความน่าเชื่อถือ (Credibility, validity) ของข้อมูลหรือสิ่งที่ค้นพบ ข้อเท็จจริง คือ การตรวจสอบสามเส้า (triangulation) เป็นการใช้ระเบียบวิธีการวิจัยหลายอย่างในการศึกษาปรากฏการณ์เดียวกัน ไม่จำเป็นต้องมีสามข้อ มีมากกว่านี้ก็ได้ เช่น ระเบียบวิธีวิจัย (research method triangulation), ทฤษฎี (theoretical triangulation), ผู้วิจัย (researcher triangulation), ข้อมูล (data triangulation)…